อ.บ้านหลวง
สถานที่ท่องเที่ยว อ.บ้านหลวง จ.น่าน
อำเภอบ้านหลวง
อุทยานแห่งชาตินันทบุรี
ครอบคลุมพื้นที่อำเภอเมืองและอำเภอบ้านหลวง รวมทั้งพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าน้ำยาว-น้ำสวก และป่าสงวนแห่งชาติถ้ำพุเตย เป็นป่าผสมผลัดใบ ดิบแล้ง ดิบเขา มีไม้ประเภท สัก ประดู่ ตะแบก ฯลฯ และในเขตอุทยานฯ นี้ยังเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชนเผ่ามลาบรี หรือ ผีตองเหลือง
สถานที่น่าสนใจในอุทยานฯ คือ
ดอยผาจิ
การเดินทางจากน่านใช้ทางหลวงหมายเลข ๑๐๙๑ ระยะทางประมาณ ๔๐ กิโลเมตร เมื่อถึงอำเภอบ้านหลวงใช้ทางหลวงหมายเลข ๑๑๗๒ เข้าบ้านพี้เหนือสู่ดอยผาจิ ระยะทางประมาณ ๓๐ กิโลเมตร การเดินทางสู่ดอยผาจิต้องเดินเท้าจากอุทยานแห่งชาตินันทบุรี เขตติดต่อน่าน-พะเยา ดอยผาจิ เป็นดอยที่มีความสวยงาม มีธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์ทั้งน้ำตก ต้นไม้นานาพันธุ์ ดอยผาจินี้เคยเป็นพื้นที่ตั้งฐานกำลังของฝ่าย ผกค. ปัจจุบันยังมีอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น เครื่องกำเนิดไฟฟ้า ท่อประปา อยู่ในพื้นที่ นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงยังมีหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง และเย้าตั้งอยู่
ดอยวาว อยู่ในการดูแลของหน่วยจัดการต้นน้ำน้ำค้าง เป็นจุดชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม อำเภอท่าวังผาเดิมเป็นป่าเสื่อมโทรมมาก ปัจจุบันได้รับการฟื้นฟูโดยทางหน่วยจัดการต้นน้ำฯได้ปลูกพันธุ์ไม้เดิม เช่น แอปเปิ้ลป่า เมเปิ้ล สนสามใบ ก่อนถึงดอยวาวจะผ่านดอยติ้วซึ่งเคยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองน่าน อุทยานแห่งชาตินันทบุรี หมู่บ้านม้งที่บ้านดอยติ้ว และบ้านสบขุ่น อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติไปอีกราว ๔ กิโลเมตร สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ไปถึงหน่วยจัดการต้นน้ำฯ แล้วเดินเท้าขึ้นสู่ยอดดอย ตลอดเส้นทางเป็นป่าดิบเขาที่อุดมสมบูรณ์ และเป็นถิ่นอาศัยของนกบนที่สูงนานาชนิด ได้แก่ นกมุ่นรกตาแดง นกหางรำหางยาว นกติ๊ดแก้มเหลือง นกเสือแมลงปีกแดง นกระวังไพรปากแดงยาว ฯลฯ และฤดูหนาวจะมีนกอพยพมาพำนัก สถานที่น่าสนใจอื่น ๆ ได้แก่ น้ำตกสันติสุข น้ำตกสองแคว น้ำตกห้วยพริก น้ำตกตาดฟ้าร้อง น้ำตกดอยหมอก น้ำพุร้อน
สถานที่พัก
อุทยานฯ มีสถานที่กางเต็นท์ไว้บริการนักท่องเที่ยว ติดต่อได้ที่ ตู้ ปณ.๓ อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ๕๕๑๔๐ โทร. ๐ ๑๖๐๒ ๗๒๘๖
การเดินทาง
จากอำเภอท่าวังผาใช้ทางหลวงหมายเลข ๑๐๘๒ สายท่าวังผา-สบขุ่น ไปประมาณ ๒๗ กิโลเมตร มีทางแยกขวามือเข้าไปประมาณ ๕๐๐ เมตร จะถึงที่ทำการอุทยานฯ หรืออีกเส้นทางหนึ่ง คือ จากตัวเมืองน่าน ใช้ทางหลวงหมายเลข ๑๐๘๐ ไปท่าวังผาจากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข ๑๑๔๘ สายท่าวังผา-สองแคว ประมาณ ๑.๕ กิโลเมตร แยกไปตามถนนสายยายหนุน-สบขุ่น ถึงหลักกิโลเมตรที่ ๒๗ แล้วเลี้ยวขวาเข้าไปประมาณ ๕๐๐ เมตร
พระธาตุเมล็ดข้าว
อยู่บ้านนาหวายใหม่ หมู่ที่ 5 ตำบลป่าคาหลวง ห่างจากอำเภอประมาณ 2 กม. มีตำนานเล่าสืบกันมาว่า เจ้าผู้ครองนครน่านเสด็จไปรับช้างเผือกที่ นครเชียงราย ขากลับได้มาพักแรมในตำบลสวด และได้ทำพิธีสมโภชช้างเผือก ที่ได้รับมอบมาโดยให้นิมนต์พระสงฆ์มารับบิณบาต ราษฎรที่มาร่วมพิธี ได้นำข้าวปลาอาหารมาถวายแด่พระสงฆ์ เป็นจำนวนมาก จนพอกพูนล้นบาต ข้าวที่ล้นออกมาได้นำมาปั้นเป็นรูปเจดีย์ ต่อมาชาวบ้านที่ศรัทธา ได้ช่วยกันเอาอิฐก่อหุ้มโดยรอบ จนกลายเป็น องค์เจดีย์ขึ้นมาได้เคยมีผู้เห็นแสงสว่างไสวออกมาจากพระธาตุในเวลากลางคืนทุกปีจะมีการทำบุญนมัสการ พระธาตุเมล็ดข้าว ในวันสงกรานต์ เพื่อเป็นสิริมงคล ความยึดมั่นศรัทธาของชาวอำเภอบ้านหลวงตลอดมาจนถึงทุกวันนี้ภู่เขาเขียว อยู่ที่บ้านป่าคา หมู่ 1 ตำบลป่าคาหลวง ห่างจากอำเภอประมาณ 3 กม. ไม่ปรากฏ ผู้สร้าง แต่ประมาณอายุแล้วไม่ต่ำกว่า 300 ปี จากการเล่าลือ สืบต่อกันมาว่า มีพระอรหันต์รูปหนึ่งได้ธุดงค์ผ่านมาบริเวณ ณ บ้านป่าคา โดยแปลงร่างเป็นนกเขาเขียว ได้บินร่อนลงบริเวณเนินเขา แห่งหนึ่งแล้วหายไป กลายเป็นกู่ (เจดีย์) อยู่ที่นั้น ซึ่งก็คือ “กู่เขาเขียว” ในปัจจุบัน
หน้าแรก
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)